วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การบ้าน2 : 06/11/55 การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

การบ้าน2 : พฤติกรรมที่คนทั่วไปยังไม่ให้ความสำคัญในข้อกฏหมายและยังคงมีให้พบเห็นบ่อยครั้งโดยไม่คำนึงถึงความผิด ถึงแม้ว่าจะมีความผิดด้วยพรบ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  

ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตราที่ 16

ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น  และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น   ตัดต่อ เติม หรือ  หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด  ทั้งนี้  โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง  ถูกดูหมิ่น  ถูกเกลียดชัง  หรือได้รับความอับอาย  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี  หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ
                        ถ้ากระทำตามวรรคหนึ่ง  เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต  ผู้กระทำไม่มีความผิด 
ความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นอันยอมความได้
                        ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์  ให้บิดา มารดา คู่สมรส  หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้  และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย


โดยอ้างอิงข้อมูลจาก พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550



ความคิดเห็นของข้าพเจ้า



พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า การกระทำที่ก่อให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเกิดความเสื่อมเสียนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ แต่ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นปัจจัยหลักสำคัญลำดับต้นๆในการดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดนิ่ง ความฉับไวของเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้เข้าถึงผู้คนในสังคมขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญในเรื่องการกระทำที่ไม่ดีที่ผู้กระทำได้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น คือ การตัดต่อภาพขึ้นเพื่อให้คนอื่นอับอาย เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าคิดว่า เป็น พฤติกรรมที่แย่มาก แต่เพราะการแพร่หลายไปในวงกว้างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้กระทำเผยแพร่รูปไปได้เยอะยิ่งขึ้นจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้พบเห็น โดยไม่นึกถึงใจผู้เสียเลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ทำเพียงเพื่อความสะใจ คับแค้นใจหรือความสนุกสนานของตนเองเท่านั้น  การกระทำพฤติกรรมนี้มีให้พบเห็นตามสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวโทรทัศน์ พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ อยู่บ่อยครั้งหรือแม้กระทั่งในสังคมเล็กๆก็ตาม 
ตัวอย่างเช่น

“ปอย ตรีชฎา” ช็อกโดนตัดต่อภาพทำใบปลิวขายตัวที่มาเก๊า
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000125182
ความคิดเห็นของข้าพเจ้า
นี่เป็นบทความหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ของคนๆหนึ่งที่พึงมีเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นต่างประเทศอีกด้วย จึงทำให้เห็นว่า เทคโนโลยีมันไร้พรมแดนในแง่ลบได้เช่นกัน

พยาบาลแจ้งจับหมอตัดต่อรูปขึ้นปกซีดีลามก
http://thainet8.blogspot.com/2011/05/blog-post_7886.html
ความคิดเห็นของข้าพเจ้า
จากเนื้อข่าว ข้าพเจ้าคิดว่า ถึงแม้จะไม่ใช่บุคคลที่มีชื่อเสียงก็ตาม บุคคลธรรมดาก็โดนละเมิดสิทธิได้เช่นกัน เพราะความที่เทคโนโลยีมันทำได้ค่อนข้างง่ายและสะดวก ถึงแม้ว่าจะกระทำโดยประมาท นั่นคือ ลงภาพในเฟสบุคของตนเอง แต่ก็ทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียและเกิดความอับอายได้

ชาวไซเบอร์เชียงราย ประณามคนตัดต่อรูปพ่อขุนเม็งราย พร้อมเปลี่ยนพระนามในหน้าเฟซบุ๊ก ร้องหน่วยงานรัฐตรวจสอบ
http://news.sanook.com/1137052/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A21/  

ความคิดเห็นของข้าพเจ้า
บทความนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากความเสียหายไม่ใช่บุคคลเดียว แต่เป็นการกระทำที่ไม่สุภาพไม่เหมาะสมและกระทบกระเทือนจิตใจอย่างยิ่งสำหรับคนหมู่มาก ถึงแม้จะทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่ควรคิดกระทำ



จากบทความข้างต้นทั้งหมด ข้าพเจ้ามีความคิดว่า การกระทำต่างๆเหล่านี้ที่ตัดต่อรูปภาพ 
ทำให้เกิดความอับอายและเสียหาย ยังคงมีให้เห็นอยู่เสมอ ถึงแม้จะมีตัวบทกฎหมายควบคุมก็ตาม
 แต่ก็ไม่สามารถระงับการกระทำเหล่านี้ได้ เพราะการกระทำสามารถทำได้ง่ายๆ เผยแพร่รวดเร็ว 
จึงทำให้ไม่รู้ที่มาที่ไปของภาพที่เสียหาย การจับกุมจึงต้องดำเนินค่อนข้างช้า ทำให้ผู้เสียหายจึงไม่เอาเรื่อง
 ไม่แจ้งความ และบางกลุ่มเห็นเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามเราควรเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
ด้วย ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน อย่าเอาเทคโนโลยีมาใช้ในทางที่ผิด นอกจากตนเองจะเดือดร้อนแล้ว 
ผู้เสียหายก็ต้องได้รับความอับอายเช่นกัน ต้องนึกถึงใจเขาใขเราบ้าง หลายๆกรณีจะเห็นได้ชัดว่า 
เป็นการเผยแพร่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพียงแค่เป็นการลงในโลกSocial networkของตัวเอง และคิด
เพียงความสุนกและทำไปโดยความคึกคะนองเท่านั้น แต่เทคโนโลยีก็สามารถทำลายผู้กระทำได้เช่นกัน และที่สำคัญ การถูกดูหมิ่นเกลียดชังของคนในสังคมที่มีต่อผู้เสียหายไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้
อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ หยุดเห็นดีเห็นงาม อย่าคล้อยตาม หยุดเผยแพร่เถิดค่ะ

อย่ามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นเลย มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง

เครดิตข่าว : www.sanook.com / thainet8.blogspot.com / www.manager.co.th



นอกจากนี้....



มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
จากมาตราต่างๆนี้ ก็เป็นกฏหมายเอาผิดกับพวกที่กระทำก่อการไม่ดีโดยการแฮกข้อมูลของธนาคาร ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมอยู่ไม่น้อย เช่น

จับแก๊งแฮกข้อมูลธนาคารกรุงไทย
http://www.thaibizcenter.com/hotnewsdetail.asp?newsid=3841

รวบมือแฮกข้อมูลแบงค์ไทยพาณิชย์สูญกว่า5แสน
http://www.komchadluek.net/detail/20110723/103729/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%8D%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B25%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99.html#.UJkgRMUxqAU

                        ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแอบนำเอาข้อมูลขององค์กรโดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ว่าจะมีระบบการป้องกันที่แน่นหนาและระบบคุ้มกันดีเยี่ยม เพราะข้อมูลธนาคารเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อส่วนรวมเพราะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นขององค์กรเองหรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า เหตุการณืเหล่านี้ที่มักเกิดขึ้นเนื่องจากผู้กระทำมีความต้องการอยากลองวิชา ว่าตนเองจะสามารถแฮกข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงได้หรือไม่ และกลายเป็นการแฮกข้อมูลเพราะทำการลักลอบทุจริตต่อไปในที่สุด ซึ่งภาครัฐควรจะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ไม่ควรปล่อยประละเลยและหมั่นดูแลรักษาระบบความปลอดภัยอย่างรัดกุม เพราะสิ่งที่ผู้กระทำได้แฮกข้อมูลนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายและมีความสามารถไม่น้อยในการเข้าถึงข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่ 


ที่มาจาก www.komchadluek.net / www.thaibizcenter.com

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Me my Story



Welcome to my world…

สวัสดีค่ะทุกท่าน 

                                                                                                                
เป็นคนสบายๆ เรียบๆ ชอบกินขนมนมเนย และร้านอาหารอร่อยๆค่ะ
 เพราะถือว่าเป็นพลังชีวิตอย่างหนึ่ง :)



                                 




            ชอบดูหนัง ซีรี่ย์ทุกชาติที่จะดูได้เลยทีเดียว เพราะถือว่าได้คลายเครียดด้วย  พล๊อตเรื่องแต่ละชาติจะไม่เหมือนกัน ไม่จำเจ น่าติดตาม ทำให้ติดค่ะ และได้เรียนรู้วัฒนธรรมชาติอื่นไปด้วย...











ฟังเพลงทุกสไตล์และทุกสัญชาติที่จะฟังได้ 
ตั้งแต่ ลูกกรุง ลามไปถึง Jazz
แต่ที่ฟังบ่อย หรือเรียกได้ว่าฟังทุกวันก็มี 

Bodyslam

Maroon5 

Jayesslee 

Easy listening





เป็นคนชื่นชอบการเที่ยวและการเดินทางมากกกกก 
ยิ่งได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป และได้ไปกับเพื่อนๆจะสนุกมากค่ะ
มีความสุขกับการไปในที่ที่แปลกใหม่ ที่สำคัญ ได้ประสบการณ์สนุกๆเพิ่มสีสันให้ชีวิตค่ะ






ที่เลือกเรียนภาษาอังกฤษ เพราะชอบภาษาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยอยากเรียนในสาขาที่เกี่ยวข้องกับภาษา
แต่จริงๆจบสายวิทย์คณิตมา และรู้ตัวว่าไม่ใช่ตัวเราเลย จึงเลือกทางเดินใหม่ค่ะ
และภูมิใจที่ได้เรียนในสิ่งที่ชื่นชอบ…

เคยมีความคิดในตอนเด็กๆเล่นๆ ว่า ถ้ามีภาษาติดตัว เราจะไม่ตาย
เพราะเชื่อว่า ถ้ามีภาษาอังกฤษ ก็เหมือนมีอาวุธสำคัญติดตัว
เมื่อต้องอยู่ในโลกใบนี้ ที่ภาษาอังกฤษมีอิทธิพลที่สุด

เลยคิดเสมอว่า ถ้าเราหลงทางในต่างเมือง เราจะรอด ถ้าโลกจะแตก เราจะไม่ตาย
เป็นความคิดสมัยเด็ก แต่จริงๆตอนนี้ก็ยังคิดแบบนี้อยู่ค่ะ ฮ่าๆๆ

บล๊อกนี้คิดว่าจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย กับคนที่มีความคิดในแบบเดียวกันนะ
มาแบ่งปันเพียงเท่านี้ก่อน ไว้พบกันใหม่ค่ะ J